วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

เส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความผูกพัน ..กับเจ้าชายน้อยและสุนัขป่า กับห้วงคำนึงถึงดอกกุหลาบ

จากเมล์ที่ได้รับมาอีกทอด(อีกทอดและอีกทอด...)
แต่ว่าให้แง่มุมที่น่ารักมากมาย ลองอ่านดู จะเป็นไร
บางที อาจตรงกับใจที่กำลังลังเลของใครบางคน
หรืออาจถูกใจใช่เลยสำหรับบางคนที่ยังสับสน เดี๋ยวอยากรัก เดี๊ยวอยากเลิก


ลองอ่านดู ว่าความรู้สึกตอนนี้ เรารัก หรือผูกพัน
หรืออยากรักแต่ไม่อยากผูกพัน หรืออยากผูกพันแต่ไม่อาจรักได้
ความรักของคนมีอยู่มากมายหลายร้อยเหตุผล
สุดแต่จะยกมาอ้างในอารมณ์ไหน
..วันนี้ ..
คุณอาจรักเขาจนหมดหัวใจ แต่แม้คุณเอง ก็คงไม่อาจบอกได้ว่า
...วันไหน หัวใจของคุณจะหมดรัก

ว่ากันว่า คนเรามักไม่ค่อยรู้ตัวว่าความรัก เข้ามาเมื่อไหร่
ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงมักบอกว่า ไม่รู้รักเพราะอะไร
แต่พอถึงเวลาเลิกรัก เราจะรู้เสมอ
เพราะเราจะต้องหาเหตุผลมาบอกกับตัวเอง และคนที่วันหนึ่งเราเคยรักว่า

วันนี้ เราไม่รักเขาแล้วเพราะอะไร
ถามว่าก็ฉันไม่รักเขาอีกแล้ว ฉันผิดตรงไหน

ไม่.. คุณไม่ผิดเลย ไม่รักก็ไม่รัก จะผิดได้ยังไง
แต่อย่าลืมว่า คนที่คุณเคยรัก..เขาก็ไม่ผิดหมือนกัน


ก่อนจะบอกเลิกรักกับใคร ตรองให้ดี
แต่ตรองให้หนักกว่า ... ก่อนจะบอกรักใคร

แล้วความรักกับความผูกพัน ไปเกี่ยวข้องกันที่ตรงไหน
ลองอ่านดู อาจใช่หรือไม่ใช่ ... แต่ตรงใจฉันมากเลย

ความรัก..กับ ความผูกพัน หน้าตาคล้ายกัน ... เหมือนซ้าย-ขวา

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ ....

รู้สึกว่า “คิดถึง” แล้วมาหา คือ .... รัก

รู้สึกว่า “เคยมาหา” ก็เลยมาหา คือ .. ผูกพัน

รู้สึกว่า “หิว” แต่อยากรอ คือ .. รัก

รู้สึกว่า “อิ่มแล้ว” ... อยากเอามาฝาก คือ .. ผูกพัน

รู้สึกว่า .. อยากให้เวลากันและกัน คือ .... รัก

รู้สึกว่า .. อยากใช้เวลาด้วยกัน คือ .. ผูกพัน

รู้สึกว่า .. การที่เราหงุดหงิดคือทำให้อีกคนไม่สบายใจ คือ .. รัก

รู้สึกว่า .. การที่เราโกรธคือทำให้อีกคนสำนึกบ้าง คือ .. ผูกพัน

รู้สึกว่า ..... ไม่มีนาทีไหนไม่คิดถึง คือ .. รัก

รู้สึกว่า .. นาทีไหนที่ว่างจะคิดถึง คือ .... ผูกพัน

ขอบคุณเหลือเกิน "ความผูกพัน" .. ที่ทำให้รัก

ขอบคุณเหลือเกิน "รัก" ...ที่เป็นมากกว่า .. ความผูกพัน

เคยไหมรักใครคนหนึ่ง ด้วยความรู้สึกว่า

เคยผูกพันเหมือนเคยรักกัน แล้วพลัดพราก
ต้องมาตามหากันเป็นแรมปี

ถ้าเคยรู้สึกอย่างนี้ ยามที่มองแววตาใครคนนั้น
แล้วรู้สึกอยากอยู่ข้าง ๆ เพื่อคอยกางแขนปกป้องและดูแลไปตลอดชีวิต

ความรู้สึกนั้น เรียกว่า "รักและผูกพัน"
ความรู้สึกที่ ... มิอาจพรากจากกัน ได้อีก แม้เพียงหนึ่งเสี้ยววินาที

ลองหันไปมองคนข้าง ๆ แล้วถามตัวเองว่า เรารู้สึกกับความเพียงแค่รัก
หรืออยากผูกพันทั้งชีวิต เมื่อตอบตัวเองได้แล้ว จงรักเขาในแบบที่เขาเป็น
ผูกพันด้วยความรู้สึกทั้งปวงที่คุณมี และต้องไม่ลืมว่า
เราต้องรับผิดชอบกับทุกส่งที่เราผูกพันด้วย

เหมือนเจ้าชายน้อย เหมือนสุนัขป่า เหมือนดอกกุหลาบ ในบทที่ 21 ของวรรณกรรมในหัวใจฉัน
....
"มาเล่นกับฉันซิ" เจ้าชายน้อยชักชวน "ฉันกำลังเศร้าใจมาก…"
"ฉันเล่นกับเธอไม่ได้หรอก ฉันยังไม่ถูกทำให้เชื่อง" สุนัขป่าตอบ

"อา…ขอโทษ" เจ้าชายน้อยพูด แต่หลังจากคิดตริตรองอยู่ครู่ใหญ่ เขาก็กล่าวต่อไปว่า

"ทำให้เชื่องหมายความว่ากระไรนะ?"
"เธอไม่ใช่คนที่นี่ เธอหาอะไรหรือ?" เขาถาม
"ฉันหาพวกคน" เจ้าชายน้อยตอบ "ทำให้เชื่องแปลว่าอะไรนะ?"
"พวกคนน่ะรึ" สุนัขป่ากล่าว "เขามีปืนและเขาล่าสัตว์ น่ารำคาญจะตาย
พวกเขาเลี้ยงไก่ด้วย ก็มีดีเพียงอย่างเดียวนี่แหละ เธอกำลังหาไก่รึเปล่า?"
"เปล่า ฉันกำลังหาเพื่อน ทำให้เชื่องแปลว่าอะไร?"
"เป็นสิ่งซึ่งมักถูกลืม" สุนัขป่ากล่าว "มันคือการสร้างความสัมพันธ์"
"ความสัมพันธ์ ?"
"แน่นอน"สุนัขป่ากล่าว

"สำหรับฉันเธอเป็นเพียงเด็กผู้ชายเล็ก ๆ คนหนึ่งซึ่งเหมือน ๆ กับเด็กชายคนอื่น ๆ อีกหมื่นคน
ฉันไม่ต้องการเธอ และเธอก็ไม่ต้องการฉันเช่นเดียวกัน ฉันก็เป็นเพียงสุนัขป่าธรรมดา ๆ ตัวหนึ่ง
เหมือนสุนัขป่าอื่น ๆ หมื่นตัว แต่ทว่าถ้าเมื่อใดเธอคุ้นเคยใกล้ชิดกับฉัน
เมื่อนั้นเราก็ต่างต้องการซึ่งกันและกัน เธอก็จะเป็นเด็กคนเดียวในโลกสำหรับฉัน
และฉันก็จะเป็นสุนัขป่าตัวเดียวในโลกสำหรับเธอด้วย…"

"ฉันเริ่มจะเข้าใจละ" เจ้าชายน้อยกล่าว
"มีดอกไม้อยู่ดอกหนึ่ง…ฉันคิดว่าเธอได้สร้างความสัมพันธ์กับฉัน…"
"ก็อาจเป็นไปได้ เราอาจมองดูโลกได้ต่าง ๆ กันไป"
"โอ…ไม่ใช่บนโลกนี้หรอก" เจ้าชายน้อยตอบ สุนัขป่ามีท่าทีแยบยล
"บนดาวดวงอื่นรึ?"
"ใช่" ....
...ถ้าเธอทำให้ฉันเชื่อง ชีวิตของฉันก็จะสดใสขึ้น
ฉันจะเรียนรู้จักฝีเท้าซึ่งผิดจากเสียงอื่นทั้งสิ้น เสียงฝีเท้าอื่นจะทำให้ฉันหลบหนีไปใต้ดิน
แต่ฝีเท้าของเธอจะเรียกฉันให้ออกมาจากโพรงดิน เช่นเดียวกับเสียงดนตรี
และดูนั่นซิ เธอเห็นไหม ที่นั่นทุ่งนาข้าวสาลี ฉันไม่กินขนมปังหรอก
ข้าวสาลีหามีประโยชน์ต่อฉันไม่ นาข้าวสาลีจึงมิได้ทำให้ฉันหวนระลึกถึงสิ่งใดเลย
และนั่นก็เป็นสิ่งที่น่าเศร้า แต่เธอก็มีผมสีทอง
ฉะนั้นถ้าเธอจะก่อความสัมพันธ์ของเราทั้งสอง ก็จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่ง
ข้าวสาลีสีเหลืองอร่ามทำให้นึกถึงเธอ และฉันชอบฟังเสียงลมพัดต้นข้าว…"
สุนัขป่านิ่งไปและมองดูเจ้าชายน้อยเป็นเวลานาน

"ได้โปรดเถิด…จงทำให้ฉันเชื่อง" เขากล่าว
"ฉันอยากจะทำเช่นนั้น" เจ้าชายน้อยตอบ "แต่ฉันไม่มีเวลามาก
ฉันมีเพื่อนมากมายที่จะต้องไปค้นหา และสิ่งต่าง ๆ มากมายที่จะต้องเรียนรู้อีก"

"เราจะรู้จักแต่ละสิ่งซึ่งเรามีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้น" สุนัขป่ากล่าว

"มนุษย์เขาไม่มีเวลาที่จะรู้จักสิ่งใดทั้งสิ้น เขาซื้อของสำเร็จรูปจากพ่อค้า
แต่เนื่องจากพ่อค้าขายเพื่อนยังไม่มีปรากฏ มนุษย์จึงยังไม่มีเพื่อน
ถ้าเธอต้องการเพื่อน เธอจึงหัดให้ฉันเชื่องสิ…"


"ต้องทำอย่างไรเล่า" เจ้าชายน้อยถาม
"เธอจะต้องมีความอดทน" สุนัขป่าตอบ "เธอจะต้องนั่งห่างจากฉันหน่อยในตอนแรก
อย่างนั้นแหละ นั่งบนหญ้า ฉันจะชายตามองดูเธอ และเธอก็อย่าพูดอะไรเลยนะ
เพราะการพูดคือที่มาของความเข้าใจผิด แล้วเธอก็เขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ฉันมากขึ้นทุกวัน"

วันรุ่งขึ้นเจ้าชายน้อยก็กลับมาอีก
"เธอควรจะมาในเวลาเดียวกันเสมอ" สุนัขป่ากล่าว "เป็นต้นว่า ถ้าเธอเคยมาตอนบ่ายสี่โมง
ประมาณสักบ่ายสามโมงฉันก็เริ่มเป็นสุขแล้ว ยิ่งเวลาล่วงไปฉันก็เป็นสุขมากขึ้น
พอสี่โมงฉันก็จะรู้สึกตื่นเต้นและกระวนกระวาย ฉันจะรู้จักคุณค่าของความสุข….
แต่ถ้าเธอมาไม่เป็นเวลา ฉันจะไม่มีวันรู้ว่าเมื่อไรฉันควรจะเตรียมใจของฉันไว้…

ด้วยประการฉะนี้ เจ้าชายน้อยก็ได้หัดสุนัขป่าจนเชื่อง และเมื่อเวลาจากกันใกล้เข้ามา
"อา…ฉันจะร้องไห้" สุนัขป่ากล่าว
"เป็นความผิดของฉันน่ะเอง ฉันไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจ แต่เธอเองอยากให้ฉันหัดให้เชื่อง"
"ใช่แล้ว" สุนัขป่ากล่าว
"แต่แล้วเธอกลับจะร้องไห้" เจ้าชายน้อยติง
"แน่ละ"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอก็ไม่ได้อะไรเลย"

"ฉันได้สิ" สุนัขป่ากล่าว "ก็สีของข้าวสาลีไงล่ะ" แล้วเขากล่าวต่อไปว่า
"จงกลับไปดูกุหลาบเหล่านั้น เธอจะเข้าใจในที่สุดว่า ดอกกุหลาบของเธอมีอยู่ดอกเดียวในโลก
แล้วเธอกลับมาร่ำลาฉัน ฉันจะบอกความลับอย่างหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญแก่เธอ"

เจ้าชายน้อยกลับไปดูหมู่กุหลาบ "เธอช่างไม่เหมือนดอกกุหลาบของฉันเลย เธอยังไม่มีความหมาย
เพราะไม่มีใครมาสร้างความสัมพันธ์กับเธอ และเธอยังไม่เป็นของใคร
เธอเป็นเหมือนสุนัขป่าของฉันในตอนแรก ซึ่งเหมือน ๆ กับสุนัขป่าอื่น ๆ หมื่นตัว
แต่ฉันเป็นเพื่อนกับเขา เขาจึงกลายเป็นสุนัขป่าตัวเดียวในโลกสำหรับฉัน"

ฝ่ายหมู่กุหลาบดูรู้สึกอึดอัดใจ "เธอสวยอยู่หรอก แต่เธอไม่มีความหมายเลย"

เจ้าชายน้อยกล่าวสืบไปกับหมู่ดอกกุหลาบนั้น "ไม่มีใครยอมตายเพื่อเธอหรอก
แต่สำหรับดอกกุหลาบของฉัน แน่ล่ะ คนผ่านไปมาตามธรรมดาก็คิดว่าดอกกุหลาบนั้น
เหมือน ๆ กับพวกเธอ แต่ว่า ดอกกุหลาบดอกเดียวนั้นมีความสำคัญกว่าเธอทั้งหมด
เพราะเป็นดอกกุหลาบซึ่งฉันได้รดน้ำ เพราะว่าฉันได้ถนอมไว้ในฝาครอบ
และเพราะว่าเป็นดอกกุหลาบของฉัน ฉันจึงได้หาฉากมาบังลม ฉันได้ฆ่าตัวหนอน
ยกเว้นบางตัวซึ่งฉันปล่อยให้เป็นผีเสื้อ) ฉันจึงทนฟังเขาบ่น ฟังเขาโอ้อวด
แม้กระทั่งฟังเขานิ่งเงียบ ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะว่าเป็นดอกกุหลาบของฉัน"

แล้วเขากลับมาหาสุนัขป่า "ลาก่อนนะ" เขากล่าว
"ลาก่อน" สุนัขป่าตอบ "นี่คือความลับของฉันมันแสนจะธรรมดา
เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา "

"สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา" เจ้าชายน้อยพูดตามเพื่อเป็นการเตือนความทรงจำ
"เวลาที่เธอเสียไปให้กับดอกกุหลาบของเธอ ทำให้ดอกกุหลาบนั้นมีค่ามากขึ้น ...
มนุษย์ลืมความจริงข้อนี้ "สุนัขป่ากล่าว "แต่เธอต้องไม่ลืมมัน
เธอจะต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย เธอต้องรับผิดชอบดอกกุหลาบของเธอ…."


"ฉันต้องรับผิดชอบต่อดอกกุหลาบของฉัน….." เจ้าชายน้อยกล่าวซ้ำเพื่อให้หวนระลึกได้


ขอบคุณ เจ้าชายน้อย สำนวนแปล อริยา ไพฑูรย์